.. สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อกค่ะ บล็อกนี้จะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับการทำขนมง่ายๆ และสาระน่ารู้้ต่างๆมากมาย ..

วันเสาร์, ธันวาคม 18, 2553

มาทำเบเกอรี่กันเถอะ

.. BAKERY ..

รวมสูตรขนมอร่อยๆ มากมาย ใครว่าเบเกอรี่ทำยาก จิ้มเลย !!
"ทำง่าย" แถบยัง "อร่อยง่าย"  





สูตรทาร์ตไข่  .. Egg Tart ..




CLICK  ME  !!






สูตรแพนเค้ก .. PanCakes ..








สูตรแซนด์วิชพาร์มาแฮม .. Parma ham sandwich ..




แซนด์วิชพาร์มาแฮม .. Parma ham sandwich ..

.. Parma Ham Sandwich ..

มาทำแซนด์วิชพาร์มาแฮมกันเถอะ


                    ขนมปังบาแกตต์หรือขนมปังฝรั่งเศส 2 ชิ้น           พาร์มาแฮม 3-4 ชิ้น
  
                          
                     น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ                                 ครีมชีส 1/4 ถ้วย


                     เนื้อลูกพรุน 50 กรัม                                       เกลือ พริกไทย อย่างละหนึ่งหยิบมือ



แซนด์วิชพาร์มาแฮม




                วิธีทำ

                   ราดน้ำมันมะกอกลงบนขนมปังบาแกตต์ ตามด้วยเกลือ พริกไทย หรือปาปริก้าตามใจชอบ

วางขนมปังลงบน Crispy Plate หรือถาดสำหรับทำเกรียม
   
นำเข้าเตาอบไมโครเวฟ กดปุ่ม Crusty Cook เลือกเบอร์ 3 (เครื่องจะแสดงเวลาทำงาน 6 นาที) รอจนครบ 2 นาที ให้กดปุ่ม Stop เพื่อเปิดเช็กดูความเกรียมที่ต้องการ 
หากรู้สึก ว่าเกรียมพอแล้วก็นำออกมาได้เลย แต่ถ้ายังก็นำเข้าอบต่อ โดยกดปุ่ม Start
นำพาร์มาแฮมไปย่างด้วยวิธีการเดียวกับการย่างขนมปัง แต่ให้เปิดออกมาเช็กเมื่ออบผ่านไปแล้วสัก 4 นาที หากรู้สึกว่าเกรียมพอแล้วก็นำออกมาได้เลย แต่ถ้ายังก็นำเข้าอบต่อ โดย กดปุ่ม Start
สับลูกพรุนผสมกับครีมชีส เกลือ และพริกไทย
ทาครีมชีสลงบนขนมปังบาแกตต์ จากนั้นวางพาร์มาแฮมลงแล้วประกบด้วยขนมปังบาแกตต์อีกชิ้น เป็นอันเสร็จพร้อมเสิร์



วันศุกร์, ธันวาคม 17, 2553

แพนเค้ก ..Pancakes..

.. Pancakes ..


มาทำแพนเค้กกันเถอะ


            แป้งสำหรับทำแพนเค้ก 6-7 ช้อนโต๊ะ       เนย 1 ช้อนชา


            ไข่ไก่ 2 ฟอง                                     ผงฟู 1/2 ช้อนชา                   


             นมสด 1 ถ้วย                                    


            

                
  
                      วิธีทำ


        ก่อนอื่นเริ่มจากนำส่วนผสมอย่างแป้งแพนเค้ก ไข่ไก่ นมสด และผงฟูมาผสมตีคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตีจนเนื้อแป้งที่ได้มีความเหนียวเล็กน้อย จากนั้นต่อด้วยการตั้งกระทะเทปล่อนก่อนแล้วนำเนยมาลงผัดบนกระทะใช้ไฟอ่อนๆเกลี่ยเนยที่ละลายจนทั่วกระทะ แล้วใช้ช้อนตักเนื้อแป้งแพนเค้ก ค่อยๆเหยาะพอประมาณ ระวังอย่าให้เนื้อแป้งหนาจนเกินไป เพราะจะเสี่ยงต่อการไหม้ได้ง่ายๆ ทอดแพนเค้กให้สุกเป็นด้านๆไป

         วิธีสังเกตว่าแพนเค้กอีกด้านสุกหรือไม่ คือ ดูที่เนื้อแพนเค้กที่กำลังทอดว่า เดือดเป็นรูพรุนๆหรือยัง ถ้าเป็นรูพรุนแล้วก็แสดงว่าอีกด้านสุก ค่อยๆใช้ตะหลิวชนิดแบน ช้อนขึ้นแล้วพลิกกลับด้านได้ รอจนอีกด้านสุกก็เป็นอันเสร็จ

วันอังคาร, ธันวาคม 14, 2553

ทาร์ตไข่ .. Egg Tart ..

 .. Egg Tart ..

มาทำไส้ทาร์ตกันเถอะ

                    ไข่                            3  ฟอง                 เกลือ       ½   ช้อนชา

                    ครีมข้น                    ½ ถ้วย                    นม           1  ถ้วย
                    
                    น้ำเชื่อม                  ½  ถ้วย                    วานิลา    2  ช้อนชา

               
               วิธีทำ
                  
                    นำทุกอย่ามารวมกันเเล้วก็คนให้เข้ากัน จากนั้นกรอกหนึ่งรอบ เสร็จแล้ว !!


มาทำแป้งทาร์ตกันเถอะ         

แป้งสาลีเอนกประสงค์         3   ถ้วย                   เนย         200  กรัม
                  
                    เกลือ       ½  ช้อนชา                                     น้ำตาลไอซิ่ง           1  ถ้วย
                               
                               
               


                วิธีทำ

ขั้นตอนแรกเลยเพื่อนๆ  ก็ตัดเนยให้เป็นชิ้นเล็กๆ  จากนั้นก็นำแป้งสาลีเอนกประสงค์   เกลือ   น้ำตาลไอซิ่ง  เนย  มาผสมแล้วนวดให้เข้ากัน จนแป้งเนียน  เพียงแค่นี้เพื่อนๆ ก็จะได้แป้งทาร์ตแล้ว ไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ ^^

                      ขั้นตอนต่อไปนำแป้งทาร์ตที่เพื่อนๆ  เพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้  มาพักไว้ในตู้เย็นประมาณ   1  ชั่วโมง

           ครบ 1 ชั่วโมง ก็นำมากรุใส่พิมที่เตรียมเอาไว้ ( ทาเนยไว้บนพิมก่อนนะค่ะ เดี๋ยวมันจะแกะไม่ออกเอา!  ^.< ) พอกรุเสร็จ  ก็ให้เพื่อนๆ  เอาซ้อมมา จิ้ม  จิ้ม จิ้ม จิ้ม จิ้ม จิ้ม จิ้ม จิ้ม…!! (เฮ้อ.. ใส่อารมณ์มากไปหน่อย ..เหนื่อยเลย  >O<;) ให้เป็นรู  

หลังจากนั้นก็เดินไปเปิดเตาอบ 180o C  หรือ 360o F  ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที   ระหว่างรอเตาอุ่น   นำไส้ทาร์ตที่เตรียมไว้หยอดลงพิม  แล้วก็นำเข้าเตาอบ ประมาณ  20  นาที  (ระหว่างนั้น  ถ้าได้กลิ้นหอมๆ  หรือเห็นว่าสุดแล้วก็เอาออกได้เลย ) 


มาถึงขั้นตอนสุดทายกันแล้วนะค่ะ ...1   2   3 ...กินเลย !!

* ในภาพนี้เราจะใช้เป็นแป้งพัฟ

ความจริง 30 ข้อ ที่ผู้หญิงเถียงไม่ได้ และไม่กล้าเถียง

[KB187-1-590.jpg]1. ไม่ว่าจะเดินอยู่ที่ไหน แต่มีของ 4 อย่างที่ผู้หญิงต้องหยุดดู....คือ ตุ้มหู กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า 
2. ผู้หญิงชอบกินเค้กช็อคโกแลตและบ่นว่าอ้วน
3. เวลาเธอถามคุณว่าอ้วนไปหรือเปล่า...ถ้าคุณตอบว่าเปล่าเธอจะไม่เชื่อแต่ถ้าคุณตอบว่าอ้วนเธอจะ โกรธ 
!@3d#$!
4.หากจะอธิบายเรื่องเวรกรรมให้ผู้หญิงเข้าใจให้ยกเรื่องสลิปบัตรเครดิตเป็นตัวอย่าง
5.ผู้หญิงชอบให้คนมาจีบแต่ไม่ได้ชอบทุกคนที่เข้ามาจีบ
6.ผู้หญิงเกิดมาคู่กับครีมทาผิวและโฆษณาครีมทาผิวทุกตัวได้ผลเสมอ
7.ผู้หญิงไม่เคยเหน็ดเหนื่อยจากการเดินช๊อปปิ้ง
8. เวลาที่ผู้หญิงบอกว่าไม่มีอะไร แปลว่ามีอะไร และผู้ชายก็ไม่รู้หรอก(เฉลยไปเถอะ)
9.เวลาร้องไห้ผู้หญิงจะต้องการ  การปลอบโยน แต่ถ้าไปถามเธอจะบอกว่า "ไม่ต้อง"
10.ผู้หญิงชอบถามความเห็นเวลาช๊อปปิ้งกับแฟนของตัวเอง...และพวกผู้ชายก็มักจะเออออว่าสวยไปกับ เธอด้วย ทั้งๆที่ในใจพวกเค้าว่าไม่สวย...
11. ผู้หญิงใช้ลิปสติกไม่เคยหมดแท่ง
12.ผู้หญิงชอบสมัครฟิตเนสและจินตนาการว่าตัวเองจะฟิตแอนด์เฟิร์มภายใน 3 เดือน แต่หลังจากสมัครเสร็จเธอก็มักจะไปช๊อปปิ้งแถวๆร้านฟิตเนสแต่ไม่เคยเข้าไปเล่นฟิตเนสเลยสักที
13.ผู้หญิงเกิดมาคู่กับดอกไม้เวลาผู้ชายทำอะไรผิดให้เอาดอกไม้ไปให้...โทษอาจจะลดลงครึ่งนึง
(ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริง)
14.ผู้หญิงจำวันทุกวันเก่งมาก ไม่ว่าจะเป็นวันที่เจอกันครั้งแรก วันที่คบกัน วันเกิด วันครบรอบ....และวันอื่นๆ และนี่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เธอทะเลาะกับแฟนเพราะผู้ชายจะไม่เคยจำ....
15.ผู้หญิงชอบอ่านดวงในหนังสือนิตยสารมากและหากมันไม่ดีก็จะมาคอยระแวงคุณ
16.คำขอโทดที่ดีที่สุดคือ "ไปช๊อปปิงมั้ย"
17.ผู้หญิงส่วนใหญ่ขับรถอย่างเดียวแต่ไม่ค่อยดูแลรถ
18. เวลาทะเลาะกันเธอจะบอกว่าไม่ต้องโทรมาอีกแล้ว แต่หลังจากวางหูเธอจะหันไปดูโทรศัพท์บ่อยๆ และหลังจากดีกันแล้วเธอจะต่อว่าว่าตอนนั้นทำไมไม่โทรมา....อ้าวววว... 
19.ผู้หญิงมักสนเรื่องราวชู้สาวของคนที่เค้าไม่รู้จัก
20.ผู้หญิงกินข้าวเป็นมื้อจริงๆน้อย กินขนมระหว่างมื้อเยอะ
21.ผู้หญิงผมตรงจะอยากผมหยิกและผู้หญิงผมหยิกจะอยากผมตรง
22.กระเป๋าถือของผู้หญิงมีน้ำหนักมากกว่าสายตาประเมิน ไม่เชื่อก็ลองถือดูสิ
23.ผู้หญิงนัดเจอกัน 99% จะเม้าเรื่องแฟนของตัวเอง.....
24.ผู้หญิงอยากให้ผู้ชายฟังเธอบ่น...แต่ถ้าคุณเงียบเกินไปเธอจะถามว่าทำไมไม่พูดอะไรบ้าง...อ้าว อีกแล้ว
25.ในที่ทำงานมักจะมีเพื่อนร่วมงานผู้หญิงที่ไม่ถูกกัน...
26.เวลาผู้หญิงนินทากันเอง ผู้ชายจะทำหน้าเฉยๆแต่จริงๆแล้วก็อยากรู้เหมือนกัน
27.ผู้หญิงทุกคนมีตู้เสื้อผ้าสองตู้ขึ้นไปและเมื่อถึงเวลาโละเสื้อผ้าเก่าๆที่ไม่ได้ใช้มักจะได้ยินประโยคนี้ ออกมา..."เสื้อตัวนี้ยังไม่ได้ใส่เลย! ?!?!?"
28.ผู้หญิงชอบแสดงความเป็นเจ้าของ โดยการใส่รูปคู่ไว้ในกระเป๋าตังผู้ชายเอาตุ๊กตาไปวางในรถ... อื่นๆอีกมากมาย
29. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยประโยค"วันนี้คุณสวยจัง" จะทำให้เธออารมณ์ดีไปทั้งวัน
30.ผู้หญิงทุกคนรัก การช๊อปปิ้ง


วันจันทร์, ธันวาคม 13, 2553

ขนมปังทำให้แก่เร็ว จริงหรือ ?

            อาหารมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ แต่น่าแปลกที่คนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยให้ความสำคัญกับอาหารมื้อแรกของวันสักเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะความเร่งรีบและต้องแข่งขันกับเวลา ทำให้อาหารเช้าที่ความจริงแล้วจะต้องเปี่ยมไปด้วยสารอาหาร ถูกลดทอนความสำคัญให้เหลือเพียงแค่"ขนมปังปิ้ง"เท่านั้น ...
     
     ด้วยความรวดเร็วและง่ายในการรับประทาน ขนมปังจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะที่สุด ... แต่เพื่อนๆ ทราบรึเปล่าคะว่า จริงๆ แล้วการรับประทานขนมปังบ่อยๆ เป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราก็ได้นะคะ

    
      จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ข้อเท็จจริงนี้ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาแล้วว่า การที่เรารับประทานขนมปังปิ้งบ่อยๆ ติดต่อกัน จะทำให้เราแก่ชราลงอย่างรวดเร็ว และเป็นโรคเรื้อรังขึ้นได้


       ข้อเท็จจริงนี้ถูกยืนยันโดย โจเซฟีน ฟอร์บส์ นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันโรคหัวใจและเบาหวาน ไอดีไอ ที่ ได้ทำการศึกษาอาหารสามัญต่างๆ ตั้งแต่ขนมปังปิ้ง ครัวซองต์ ว่าขนมปังเหล่านั้นสามารถก่อสารเคมี ซึ่งกำลังเป็นที่สงสัยกันว่าทำให้เราแก่ลงได้อย่างรวดเร็ว และเป็นโรคเรื้อรังได้ โดยสารเคมีนั้นมีชื่อว่า เอจีอีส์ อยู่ในอาหาร นับตั้งแต่อาหารที่มีเนื้อสัตว์บดละเอียด ไปจนถึง เครื่องดื่มอัดลมและกาแฟ


     แล้วเพื่อนๆ ทราบรึเปล่าคะว่าการที่มีสารเอจีอีส์ สะสมอยู่ในร่างกายมากเกินไปจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกายของเรา ... เชื่อเถอะค่ะว่าคาดไม่ถึงแน่ๆ เพราะสารเคมีเอจีอีส์นั้นจะทำให้เราสามารถเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคผิวหนังเหี่ยวย่นซึ่งผิวที่มีอายุก็จะเหี่ยวย่นและมีการสะสมของเม็ดสีทั้งนี้อาหารที่อาจก่อนให้เกิดสารเคมีเหล่านี้ได้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารแปรรูปที่มีปริมาณน้ำตาลหรือปริมาณไขมันสูง และผ่านการปิ้ง ย่าง หรือการทอดด้วยอุณหภูมิสูง
    


.. แบบนี้เราคงต้องหันมาให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเช้า

ให้มากขึ้นซะแล้วล่ะค่ะ ขึ้นปล่อยให้ตัวเองมีนิสัย

กินง่าย อยู่ง่าย เอาสะดวกสบายเข้าว่ามากเกินไป เราอาจจะต้องมานั่งรักษาโรค

ที่เกิดขึ้นจากสารเคมีที่สะสมอยู่ในร่างกายของเราก็ได้นะคะ ..






ของหวานแบบไหนเหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ (Woman's Story)

          อาหารที่ไม่มีประโยชน์ทั้งหลาย เป็นอาหารต้องห้ามสำหรับคนท้อง รวมทั้งขนมหวาน ที่เป็นที่โปรดปรานของผู้หญิงหลายคน แล้วหากเกิดอยากกินขึ้นมาก็คงห้ามยาก เอาเป็นว่าหากจะกินก็กินแบบถูกวิธี กินแบบที่ไม่ทำร้ายร่างกายกันดีกว่าค่ะ...


            คนท้องต้องเลือกกินให้เป็นนะคะ เนื่องจากขนมส่วนใหญ่ทำมาจาก แป้ง และน้ำตาล ถึงแม้จะเป็นหมวดหมู่อาหารที่ให้พลังงาน แต่ด้วยปริมาณที่นำมาประกอบเป็นขนมมักจะเกินความต้องการของร่างกาย ส่วนที่เหลือจึงไปสะสมอยู่ตามชั้นผิวหนัง โดยเฉพาะช่วงหน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน แต่ก็ยังมีขนมบางประเภทที่มีวัตถุดิบที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย และไม่เก็บเป็นไขมันสะสมรวมทั้งไม่ใช้น้ำตาล หรือน้ำมันมากจนเกินไป ซึ่งต้องเลือกให้เป็น

            เวลาในการกินก็สำคัญ ในช่วงตั้งท้อง ก็ให้เลือกช่วงสายของวัน หรือมื้อบ่ายของวัน เป็นเวลาของอาหารว่าง ส่วนมื้อหลักควรเป็นอาหารปกติแต่ลดจำนวนลง ส่วนมื้อก่อนนอนถ้ารู้สึกหิวก็ให้เป็นอาหารเบาๆ อย่างนมสด กับขนมปังสัก 1-2 แผ่น ทั้งยังต้องเลือกกินขนมให้เหมาะสมกับตัวเอง ใครที่ก่อนตั้งครรภ์น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์เกินมาตรฐาน หรือรู้ตัวเองว่าอ้วนง่าย ต้องระวังเรื่องขนมหวานให้มากขึ้น

            นอกจากนั้นแล้ว การเลือกวัตถุดิบที่ใช้ในการทำขนมก็ไม่ควรมองข้าม ควรเน้นเลือกขนมที่ทำจากวัตถุดิบที่มีประโยชน์ เช่น...ทำจากถั่ว ขนมถั่วแปบ ถั่วต้มน้ำตาลหรือน้ำขิง สาคูหรือข้าวเกรียบปากหม้อ แต่ต้องกินแกล้มกับผักด้วย ฯลฯ ขนมที่ทำมาจากนม อาจจะเป็นมิ้ลค์เชคผสมผลไม้หรือโยเกิร์ต วุ้นโยเกิร์ต หรือวุ้นนมสด ฯลฯ และขนมที่ทำมาจากผลไม้สดตามฤดูกาล ก็เป็นอาหารว่างได้ดี ไม่แพ้ขนมต่างๆ ที่กล่าวมา สามารถทานได้ทุก ๆ วัน

              ทราบกันแล้วว่าควรเลือกทานขนมหวานแบบไหน หากข่มใจตัวเองให้ชนะความอยากไม่ได้ ก็ลองเลือกหาขนมหวานตามคำแนะนำดูนะคะ จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายของคุณแม่ค่ะ..




            

ขนมไทย VS ขนมต่างชาติ

หน้านี้เราจะพูดถึง ขนมต่างชาติและขนมไทย

ข้อดีและข้อเสียต่างๆ

วันอาทิตย์, ธันวาคม 12, 2553

รู้ได้ไงเนี่ย !!



ความจริง 30 ข้อที่ผู้หญิงเถียงไม่ได้ และไม่กล้าเถียง

ใครเถียงได้ ....ช่วยเถียงหน่อยเด๊ะ

>ในฐานะลูกผู้หญิง< ยอมไม่ได้..




ขนมหวานกับผู้หญิง

กินอย่างไรไม่ให้อ้วน


 สาวๆ คนไหนชอบทานขนมหวานแต่ก็กลัวอ้วน  
            
 ก็ย่างก้าวกันเข้ามาเลย.. ^^ !!







ของหวานที่เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์

ขนมหวาน หากเกิดอยากกินขึ้นมาก็คงห้ามยาก เอาเป็นว่า

หากจะกินก็กินแบบถูกวิธีดีกว่าค่ะ...







ขนมปังปิ้งทำให้แก่เร็ว

..เชื่อไหมว่า กินขนมปังทำให้แก่เร็ว 

แถมยังมีสารเคมีสะสมในร่างกายมากขึ้นด้วย

ของหวานและขนมต่าง ๆ กินอย่างไรไม่ให้อ้วน




ผู้หญิงแทบทุกคนชอบทานของหวานและขนมต่าง ๆ เป็นชีวิตจิตใจ แต่จะกินของหวานอย่างไร ถึงจะรักษารูปร่างได้เพรียวสวย คุณควรมีวิธีในการเลือกกินของหวาน เพื่อที่การทานของคุณจะได้ไม่ต้องทรงผมถึงสุขภาพและรูปร่างของคุณ


      ลดแคลอรี


ตัดน้ำตาล ครีม ออกจากขนมก่อนกิน เช่น เกลี่ยน้ำตาลไอซิ่งที่โรยหน้าขนมปังออก หรือไม่ใส่กะทิในขนมหวาน จะลดพลังงานได้ถึง 81- 150 แคลอรี หรือเกลี่ยครีมหน้าขนมเค้กออก ลดพลังงานได้ถึง 160 แคลอรี


     ควบคุมสัดส่วนการกิน

กินอย่างละนิดพอให้รู้รสชาติ เช่น คุกกี้ 1-2 ชิ้น เค้ก 1 ส่วน 4/ชิ้นเล็ก ไอศกรีม 1 ลูก คุณจะได้ชิมรสขนมทั้งหมดโดยได้แคลอรีเพียงครึ่งเดียว


     ดื่มชาเขียว หรือกาแฟร้อนหลังมื้อขนม

กาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน หากต้องการเพิ่มรสชาติหวานให้ใส่น้ำตาลเทียมแทน
นาที หลังกินขนมหวานเสร็จอย่านั่งอยู่กับที่


     เดินเล่นรอบบ้านๆ ประมาณ 15 นาที

การเดินเล่น วิธีนี้นอกจากจะช่วยย่อยแล้ว ยังป้องกันไม่ให้ไขมันสะสมที่หน้าท้อง ต้นขา และสะโพกได้
อีกด้วย


     30 นาที หลังกินของหวาน 5 ชั่วโมง

ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที เพื่อกำจัดแป้งและน้ำตาลก่อนกลายเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยก่อนและหลังออกกำลังกาย ควรดื่มชาเขียวร้อนหรือน้ำอุ่นเพื่อเสริมระบบเผาผลาญควบคู่ไปด้วย


     งดแป้งและน้ำตาลในวันรุ่งขึ้น


             มื้อเช้าและกลางวันเน้นผัก 80% โปรตีน 20% ส่วนมื้อเย็นให้กินผักผลไม้สดและดื่มน้ำเปล่าทั้งวัน